ปัจจุบันเราปฏิเสธไม่ได้เลยว่า มีบริษัทต่างชาติจำนวนมากที่มาลงทุนในประเทศไทย
ไม่ว่าจะเป็นญี่ปุ่น สิงคโปร์ อเมริกา เกาหลี จีน และชาติยุโรปต่างๆ
โดยเฉพาะประเทศญี่ปุ่น ซึ่งมีการลงทุนโดยตรง (Direct Investment) มากถึง 30%
ของเงินลงทุนจากต่างชาติทั้งหมด (ข้อมูลปี 2013) โดยส่วนใหญ่เป็นธุรกิจด้านการเงิน และอุตสาหกรรม รวมถึงไอที
จากเม็ดเงินการลงทุนของประเทศญี่ปุ่นในไทย มีมากถึง 57.6 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ
หรือประมาณ 2 แสนล้านบาท (ข้อมูลปี 2013) จึงการันตีได้ว่า เงินลงทุนของญี่ปุ่นเหล่านี้
ส่วนหนึ่งจะเป็นเงินที่นำมาเป็นค่าจ้างบุคลากร โดยเฉพาะอย่างยิ่งบุคลากรที่สามารถสื่อสารภาษาญี่ปุ่นได้
จะเป็นที่ต้องการของบริษัทญี่ปุ่น ที่มีความเป็นชาตินิยมอย่างสูง ทำให้งานภาษาญี่ปุ่นเกิดขึ้นจำนวนมาก
และมีแนวโน้มว่า ญี่ปุ่นนั้นจะลงทุนในประเทศไทยอีกมากขึ้นเรื่อยๆ
มีโอกาสให้งานภาษาญี่ปุ่นเพิ่มขึ้น และเติบโตต่อเนื่องเป็นอย่างมาก
เนื่องจากความต้องการแรงงานที่สามารถใช้ภาษาญี่ปุ่นสูง ทำให้ค่าตอบแทนหรือเงินเดือนค่าจ้างนั้นสูงตามไปด้วย
อีกทั้งญี่ปุ่นเป็นประเทศที่พัฒนาแล้ว มีเงินที่พร้อมจะลงทุนอยู่เป็นจำนวนมาก
จึงไม่แปลกเลยที่ญี่ปุ่นจะยอมจ่ายเงินเดือนค่าจ้างให้กับแรงงานภาษาญี่ปุ่น ในอัตราที่สูงกว่าภาษาอื่นๆ
ยิ่งภาษาญี่ปุ่นเก่งเท่าไร ก็สามารถเรียกเงินเดือนได้มากขึ้น
และถ้ายิ่งมีความรู้ความสามารถเฉพาะทางด้านอื่นๆอยู่ด้วยแล้ว เงินเดือนค่าจ้างในตำแหน่งานภาษาญี่ปุ่นนั้น
ก็จะสูงมากเลยทีเดียว บางทีอาจจะสูงกว่าตำแหน่งผู้บริหารบางแห่งเสียอีก
แน่นอนในเมื่อนายจ้างญี่ปุ่นยอมจ่ายเงินเดือนค่าจ้างให้กับ บุคลากรที่พูดภาษาญี่ปุ่นได้
หัวหน้าหรือผู้บริหารญี่ปุ่นย่อมคาดหวังกับผลงานของบุคลากรดังกล่าว เรียกได้ว่าเหมือนคนญี่ปุ่นคนนึงเลยทีเดียว
อย่างที่เราทราบกันดีว่า คนญี่ปุ่นขยันทำงาน เพราะญี่ปุ่นเป็นประเทศที่มีทรัพยากรไม่เพียงพอต่อความต้องการ
แต่ญี่ปุ่นมีของดี คือ ทรัพยากรมนุษย์ หรือคนญี่ปุ่นนั่นเอง
ทำให้คนญี่ปุ่นต้องทำงานหนัก เพื่อที่จะให้ดำรงชีวิตอยู่ได้ และแข่งขันกับประเทศอื่นๆได้ในเวทีโลก
ดังนั้น การทำงานกับคนญี่ปุนนั้น จึงต้องอาศัยความขยัน ตั้งใจ และที่สำคัญคือ ความรับผิดชอบ อย่างมาก
ตำแหน่งานยอดนิยมคงจะหนีไม่พ้น ตำแหน่งล่ามภาษาญี่ปุ่น หรือนักแปลนั่นเอง
แทบจะทุกวงการที่มีคนญี่ปุ่นอยู่ จำเป็นต้องมีล่าม เพื่อแปลและประสานงานกับคนต่างชาติอยู่เสมอ
เนื่องจากมีโรงงานอุตสาหกรรมญี่ปุ่นอยู่ตามนิคมอุตสาหกรรมในเมืองไทยค่อยข้างเยอะ
จำเป็นต้องมีตำแหน่งวิศวกร หรือช่างเทคนิค ที่สามารถสื่อสารภาษาญี่ปุ่นได้ และงานด้านไอทีต่างๆ
รวมถึงงานขาย เซลส์ งานการตลาด งานธุรการ งานเลขา อื่นๆอีกมากมายนับไม่ถ้วน
ไม่มีคำว่าสายเกินไป สำหรับการเรียนรู้
ขอให้คุณตั้งใจจริง รับรองได้ว่า สามารถเป็นบุคลากรภาษาญี่ปุ่น ที่มีคุณภาพได้แน่นอน
การเรียนภาษาญี่ปุ่นสามารถทำได้หลายวิธี ขึ้นอยู่กับความสะดวกของผู้เรียน
เช่น เรียนเองที่บ้าน โดยการซื้อหนังสือ หรือสื่อคอมพิวเตอร์มาเรียนรู้เอง
ไปเข้าครอสเรียนภาษาญี่ปุ่นกับโรงเรียนหรือสถาบันสอนภาษาต่างๆ ที่มีอยู่มากมายทั้งในไทยและในญี่ปุ่น
หรือถ้าใครทำงานกับคนญี่ปุ่นอยู่แล้ว ก็ลองฝึกใช้ภาษาญี่ปุ่นกับคนญี่ปุ่นดูก็เป็นเรื่องที่ดีทีเดียว แลกเปลี่ยนกับสอนภาษาไทย
ประเทศไทยกับญี่ปุ่นมีความสัมพันธ์อันดีมาตลอด
คนไทยก็ชอบไปเที่ยวญี่ปุ่น ชอบวัฒนาธรรมญี่ปุ่น ชอบอาหารญี่ปุ่น
คนญี่ปุ่นก็ชอบมาเที่ยวที่เมืองไทย ชอบอาหารไทย ชอบคนไทย
ดังนั้น อนาคตของงานภาษาญี่ปุ่นในไทยนั้น ย่อมสดในแน่นอน
ญี่ปุ่นลงทุนกับประเทศไทยอย่างมหาศาล เพราะฉะนั้นเป็นเรื่องที่แทบจะเป็นไปไม่ได้เลย
ที่ญี่ปุ่นจะถอนการลงทุนออกจากไทยอย่างถาวร
เราจึงมั่นใจได้ว่า ถ้าสื่อสารภาษาญี่ปุ่นได้ดี ยังไงๆก็มีงานทำ ไม่ตกงานแน่นอน