ถ้าการทำงานทำให้คุณหมดพลัง หรือตอนนี้กำลังท้อถอยกับการทำงาน ลองทำตามวิธินี้ดู น่าจะช่วยได้ไม่มากก็น้อย
การตื่นนอนตอนเช้า นอกจากจะทำให้มีเวลาเพิ่มในการทำธุระอื่นๆแล้ว
ยังทำให้สมองปลอดโปร่ง ร่างกายกระปรี้กระเปร่าอีกด้วย
ที่สำคัญห้ามนอนดึกนะ เดี๋ยวจะตื่นเช้าไม่ไหว การนอนไม่พอทำให้เป็นผลร้ายมากกว่าผลดี
ลองมองหาเพื่อนร่วมงาน ที่เรายังไม่เคยคุยด้วย
อาจจะเข้าไปทัก ด้วยหน้าตาที่ยิ้มแย้ม หรือหาเรื่องคุย เช่น นินทาเจ้านาย (อันนี้ไม่ค่อยดี แต่ทำกันบ่อย อิอิ)
ไม่แน่เราอาจจะได้เพื่อนใหม่ดีๆก็เป็นได้ แถมยังทำให้เราอยากไปทำงานทุกวันอีกด้วย
การนั่งทำงานท่าเดิมนานๆ จะไม่เป็นผลดีต่อสุขภาพ อาจทำให้ปวดหลัง ปวดไหล่ ปวดตา
ลองลุกจากโต๊ะทำงาน แล้วเดินเล่นใกล้ๆ เช่น เดินไปหาเพื่อนคุย เดินไปดูวิวนอกออฟฟิส ไปหาของกินเล่นที่ร้านสะดวกซื้อ
นอกจากช่วยเรื่องนี้แล้ว ยังอาจจะทำให้คิดไอเดียใหม่ๆออกด้วยนะ
แต่อยากลุกออกไปจนเพลินล่ะ เดี๋ยวเจ้านายหรือหัวหน้าจะดุเอา
บางทีการเล่น FB หรือ Social Network นานๆ อาจจะทำให้เรารู้สึกไม่อยากทำงาน
หรือขี้เกียจขึ้นนั่นเอง ลงปิดพวกนี้ดูสักพัก ให้สมองได้พักสักห้าถึงสิบนาที
แล้วมาโฟกัสกับงาน รับรองมีไฟขึ้นอีกเป็นกอง
ลองเปลี่ยนร้านทานข้าวกลางวันในช่วงพักกลางวันดู
หรือถ้าเปลี่ยนไม่ได้ ก็ลองห่อข้าวมาทานดู
การได้ทานอาหารที่แปลกใหม่ จะเป็นการกระตุ้นสมองและร่างกาย ทำให้ไฟในการทำงานจุดติดขึ้นอีกครั้ง
เช่น การออกกำลังกาย การเล่นกีฬา หาหนังดีๆดูสักเรื่อง เล่นเกมที่ชอบ สังสรรกับเพื่อน
จะทำให้เรารู้สึกไม่จำเจ เมื่อกลับมาทำงานในวันรุ่งขึ้น
แถมยังช่วยส่งเสริมสุขภาพกาย สุขภาพจิต และอาจได้เพื่อนใหม่ๆอีกด้วย
บางครั้งการที่เราหมดไฟทำงาน อาจจะเป็นเพราะเราไม่ชอบงานที่เรากำลังทำอยู่ก็เป็นได้
ลองปรึกษา Head Hunter หรือ Recruiter ที่มีความเชี่ยวชาญในตำแหน่งงานนั้นๆ
เขาน่าจะสามารถแนะนำให้กับเราได้ หรือถ้าจำเป็นที่จะต้องเปลี่ยนงานจริงๆ ก็ลองปรึกษา Head Hunter ได้
การย้ายงานหรือเปลี่ยนงานไม่ได้เป็นเรื่องร้ายแรงอะไร เพราะถ้าเราฝืนทำงานที่เราไม่ชอบหรือไม่อยากทำอยู่
จะส่งผลเสียต่างๆ ตามมามากกว่าผลดี นอกจากเราจะทำงานได้ไม่เต็มประสิทธิภาพ ทำให้ส่งผลเสียต่อบริษัทแล้ว
ยังจะทำให้เกิดผลเสียต่อตัวเราในด้านสุขภาพจิตอีกด้วย